ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำจนทำให้เราสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ “Virtual Office” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจที่ต้องการที่อยู่จดทะเบียนที่น่าเชื่อถือ หรือมีออฟฟิศที่ดูเป็นมืออาชีพสำหรับการประชุมและนัดหมายลูกค้าเป็นครั้งคราว บทความนี้จะมาอธิบายให้ฟังว่า Virtual Office คืออะไร? และมีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไรบ้าง? มาดูกันเลย
Virtual Office คืออะไร?
Virtual Office หมายถึง สำนักงานเสมือน ซึ่งก็คือบริการให้เช่าที่อยู่สำหรับจดทะเบียนบริษัทและจด VAT โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานจริงในสถานที่นั้น และเรายังสามารถนำที่อยู่นั้นไปใส่ในนามบัตรหรือเว็บไซต์ได้อีกด้วย ธุรกิจของเราจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ในขณะที่ตัวเราเองก็สามารถทำธุรกิจได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านกาแฟ โรงแรม รีสอร์ต หรือแม้แต่ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมอื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกิจอีกด้วย
ลักษณะของ Virtual Office เป็นอย่างไร?
ลักษณะการให้บริการของ Virtual Office เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนกับการแชร์ที่อยู่กับธุรกิจอื่น และส่วนใหญ่จะมาพร้อมบริการพื้นฐานที่ออฟฟิศระดับมืออาชีพควรจะมี เช่น
- บริการพื้นฐานที่สำคัญ
บริการพื้นฐานที่มีใน Virtual Office เช่น ใช้ที่อยู่ Virtual Office จดทะเบียนบริษัท, บริการ Virtual Office จด VAT, พนักงานรับสายโทรศัพท์ที่ช่วยจดบันทึกข้อความหรือโอนสายไปยังเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว บริการรับจดหมาย พัสดุ รวมถึงบริการห้องประชุม และห้องทำงานที่พร้อมใช้งานได้ทันที โดยบริการเหล่านี้มักมีการนำเสนอมาเป็นแพ็กเกจ ซึ่งรายละเอียดอาจแตกต่างกันออกไป เพื่อให้บริษัทลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและงบประมาณของบริษัท
- เทคโนโลยีที่ใช้ใน Virtual Office
Virtual Office ยังมีเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงาน เช่น สายโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ตอบโจทย์การทำงานออนไลน์ อุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างจอ LCD หรือจอโปรเจกเตอร์ และอุปกรณ์สำหรับการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของ Virtual Office
แม้ว่า Virtual Office จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจยุคใหม่ แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้ใช้บริการควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของ Virtual Office
- ประหยัดค่าใช้จ่าย
Virtual Office ราคาถูกกว่าและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับสำนักงานให้เช่าแบบปกติ โดยเฉพาะออฟฟิศที่อยู่ในทำเลดีๆ ใจกลางเมือง อาจต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ เผื่อค่าตกแต่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ Virtual Office จะทำให้เรามีที่อยู่ออฟฟิศในทำเลที่เราต้องการ โดยไม่ต้องจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่นๆ เช่น ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ค่าบำรุงซ่อมแซม ฯลฯ
- ความยืดหยุ่นที่มากกว่า
นอกจากค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ออฟฟิศเสมือนให้เช่ายังมีความยืดหยุ่นสูงกว่าการเช่าออฟฟิศแบบปกติที่มักจะมีสัญญาระยะยาว 1 – 3 ปี หากต้องการย้ายออกหรือไม่พอใจในเงื่อนไขสัญญา ก็จะไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที ตรงข้ามกับสำนักงานเสมือนให้เช่าที่เราสามารถทำสัญญาเป็นรายเดือน หรือระยะสั้น 6 -12 เดือน ได้ตามต้องการ
- ภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ
การที่บริษัทมีที่อยู่ในย่านธุรกิจหรือใจกลางเมือง พร้อมบริการพนักงานรับโทรศัพท์ที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพให้กับธุรกิจได้มากกว่า Home Office ที่อาจดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่นัก แถมยังอาจเจอปัญหาเรื่องการเดินทางที่ไม่สะดวกหรือไม่มีที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่มาพบอีกด้วย
- การจัดการที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ
บริการของออฟฟิศเสมือนไม่เพียงแค่ช่วยรับโทรศัพท์ แต่ยังรวมถึงการรับจดหมาย และพัสดุต่างๆ พร้อมจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบและส่งต่อถึงมือเรา ทำให้ไม่พลาดทุกเอกสารสำคัญและยังไม่ต้องเสียเวลาเข้ามารับเอกสารเองด้วย
- อิสระในการทำงาน
พนักงานของเราจะสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน อาจจะมาแค่ 2 – 3 วันต่อสัปดาห์สำหรับการประชุมหรือการวางแผนงาน ซึ่งจะช่วยลดเวลาการเดินทางและเพิ่มเวลาในการพักผ่อน ทำให้พนักงานมีพลังในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้พนักงานยังมีอิสระในการบริหารเวลาของตัวเอง สามารถจัดสรรเวลาทำงาน และเวลาส่วนตัวได้ดี เมื่อพนักงานรู้สึกมีความสุข ไม่เครียด พวกเขาก็จะสามารถโฟกัส และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ปัจจุบันคนนิยมค้นหาธุรกิจผ่าน Google Map และมักจะพิจารณาเป็นลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์กับบริษัทที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือในทำเลที่พวกเขาสามารถเดินทางไปได้สะดวก ซึ่งหากบริษัทของเราตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงง่ายก็จะได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าท้องถิ่นมากขึ้น นอกจากนี้ Virtual Office บางแห่งยังมีหลายสาขาให้เราเข้าไปใช้บริการ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าสำนักงานหลายแห่ง เช่น บริการ Virtual Office จาก Found Office ที่ร่วมมือกับ Union SPACE ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงศูนย์ธุรกิจได้มากกว่า 40 สาขาทั่วเอเชียแปซิฟิก
ข้อเสียของ Virtual Office
- ตกแต่งไม่ได้
เมื่อเลือกใช้สำนักงานเสมือน เราจะไม่สามารถตกแต่ง ต่อเติม หรือรีโนเวทพื้นที่ได้ตามต้องการ เพราะเป็นเพียงแค่การเช่าบริการเท่านั้น ต่างจากการซื้อออฟฟิศที่สามารถตกแต่งได้อย่างอิสระ
- เวลาจำกัด
การเช่าออฟฟิศเสมือนอาจมีเวลาการใช้งานที่จำกัด ต้องอ่านรายละเอียดให้ดี เช่น บริการเช่าแบบรายวัน อาจจำกัดจำนวนชั่วโมงในการใช้งาน หรือแพ็กเกจรายเดือนอาจจำกัดเวลาในการใช้ห้องประชุม หากเกินเวลาที่กำหนดก็อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แต่สำหรับบริการของ Found Office ลูกค้าสามารถใช้งานห้องประชุมได้ฟรีแบบไม่จำกัดเวลาเลย คุ้มค่ามากๆ
- ขาดปฏิสัมพันธ์
การทำงานแบบ Remote Working และ Hybrid Working จะทำให้ปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างทีมงานน้อยลง เนื่องจากการติดต่อสื่อสารส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น E-mail, Google Meet, Zoom, Microsoft Teams ฯลฯ อาจทำให้พนักงานรู้สึกห่างเหินจากเพื่อนร่วมงานหรือองค์กร
Virtual Office เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน?
บริการ Virtual Office ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการเช่าพื้นที่แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากการมีที่อยู่ที่น่าเชื่อถือ และบริการต่างๆ ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ จึงเหมาะกับธุรกิจประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ธุรกิจสตาร์ทอัพและฟรีแลนซ์
ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการ Virtual Office ราคาต่ำกว่าการซื้อหรือสร้างออฟฟิศเองหลายเท่า ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถนำเงินทุนไปใช้ในด้านอื่นที่สำคัญกว่า เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการตลาด หากธุรกิจเติบโตได้ดีก็สามารถย้ายไปออฟฟิศที่ใหญ่ขึ้นได้ง่าย หรือหากธุรกิจไม่เป็นไปตามคาดก็สามารถยกเลิกสัญญาเช่าได้ทันทีหลังครบกำหนดโดยไม่มีข้อผูกมัด นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพให้กับฟรีแลนซ์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและสะดวกกว่าการนัดพบในสถานที่ไม่เป็นทางการ เช่น บ้านหรือร้านกาแฟ
- บริษัทที่มีพนักงานทำงานแบบรีโมท
บริการ Virtual Office เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับบริษัทที่ทำงานแบบ Remote Working หรือบริษัทที่ทำธุรกิจออนไลน์ เพราะพนักงานไม่ต้องเข้าบริษัททุกวัน แค่เข้ามาที่สำนักงานเพื่อประชุมหรือทำงานร่วมกันในโปรเจกต์ที่ต้องประสานงานแบบใกล้ชิด จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนกับออฟฟิศขนาดใหญ่ที่ทำให้ภาระด้านค่าใช้จ่ายและการดูแลเพิ่มขึ้น
- ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ
Virtual Office ช่วยลดภาระทางการเงินในช่วงเริ่มต้นของการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศที่อาจมีความเสี่ยงสูง ทำให้เรามีที่อยู่ทางธุรกิจในพื้นที่ที่ต้องการและทดลองตลาดในต่างประเทศได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานจริงหรือพนักงานที่อยู่ในประเทศนั้น
เคล็ดลับในการเลือกใช้บริการ Virtual Office
การเลือกบริการ Virtual Office ให้ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น
- เลือก Virtual Office ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพื่อความสะดวกต่อการเดินทาง
- มีแพ็กเกจบริการหลากหลาย รองรับงบประมาณ และความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละธุรกิจ
- สถานที่ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศเอื้อต่อการทำงาน ช่วยเสริมภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ทันสมัย ใช้งานได้ดี
- มีหลายสาขากระจายอยู่ในหลายพื้นที่ และสามารถเข้าใช้บริการได้ทุกสาขา
- แจ้งค่าบริการชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง หรือเรียกเก็บเพิ่มในภายหลัง
- ระบบจองห้องทำงานและห้องประชุมใช้งานง่าย
- พนักงานต้อนรับและรับสายโทรศัพท์มีความเป็นมืออาชีพ ช่วยสร้างความประทับใจในฐานะตัวแทนของบริษัท
Found Office เราคือผู้ให้บริการ Virtual Office กรุงเทพ ย่านเพลินจิต ที่มีบริการครบครัน ตั้งแต่ออฟฟิศเสมือนให้เช่าจด VAT จดทะเบียนธุรกิจ ไปจนถึงบริการกล่องจดหมาย เคาน์เตอร์รีเซฟชั่นพร้อมพนักงานต้อนรับและพนักงานรับสายที่คอยบริการอย่างมืออาชีพ พร้อมทั้งห้องทำงานส่วนตัวที่ตกแต่งเสร็จสรรพพร้อมใช้ และห้องประชุมมาตรฐานที่มีกระดานไวท์บอร์ด, จอ LCD, โปรเจกเตอร์, Wifi, อุปกรณ์เสริมสำหรับการประชุมออนไลน์ รวมถึงเครื่องดื่มน้ำชา – กาแฟสด ที่สำคัญทั้งหมดมาในราคา ‘All-Inclusive’ ไม่มีค่าใช้จ่ายยิบย่อยเพิ่มเติมที่ทำให้งบบานปลายจนปวดหัว มาเริ่มต้นความสำเร็จได้แล้ววันนี้ที่ Found Office ติดต่อทีมงานของเราได้เลย